เตือนภัยมิจฉาชีพมารูปแบบใหม่ หลอกให้ซื้อโต๊ะสเตนเลสใช้รับประทานอาหารในโรงเรียน ทำงานเป็นทีม แฉตั้งร้านทิพย์ ปลอมเอกสารซะเนียน ทำร้านจริงไม่เป็นอันทำงาน

เตือนภัยมิจฉาชีพมารูปแบบใหม่ หลอกให้ซื้อโต๊ะสเตนเลสใช้รับประทานอาหารในโรงเรียน ทำงานเป็นทีม แฉตั้งร้านทิพย์ ปลอมเอกสารซะเนียน ทำร้านจริงไม่เป็นอันทำงาน

วันที่ 18 ธ.ค.67 สมาชิกเฟซบุ๊ก “Pupe Chiquita” โพสต์เตือนภัยมิจฉาชีพ หลอกให้ซื้อโต๊ะสเตนเลสใช้รับประทานอาหารในโรงเรียน เสียหายหลักแสน โดยระบุว่า

แชร์เรื่องมิจฉาชีพหลอกเงินหลักแสน มาแล้วค่ะ เนื้อหายาวมากนะคะ พยายามสรุปใจความให้กระชับมากที่สุดแล้วค่ะ เหตุการณ์เกิดขึ้นภายใน 3 วัน ภาพประกอบนำมาจากเพจของร้านสเตนเลสนะคะ แต่เรื่องที่เล่าเกิดขึ้นกับร้านหนังสือมือสองที่มีหน้าร้านขายจริงค่ะ

เตือนภัย มิจฉาชีพหลอกให้ซื้อโต๊ะสเตนเลสใช้รับประทานอาหารให้กับโรงเรียน เสียหายหลักแสน หลังจากได้ทราบเรื่องราวแล้ว เข้าไปดูในเพจของร้าน เห็นทางเพจของร้านสเตนเลสที่ถูกแอบอ้างชื่อ โพสต์เรื่องว่ามีคนทักเพจมาหลายราย ถูกหลอกให้โอนเงินเพื่อซื้อโต๊ะอาหารไปส่งโรงเรียน

ทางเพจได้ออกมาชี้แจงและแจ้งความเอาไว้แล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่เคยให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีเป็นชื่อบุคคล ทางร้านมีบัญชีในรูปแบบบริษัทเท่านั้น และงานที่สั่งจะต้องสั่งทำ ไม่ได้มีสต๊อกพร้อมส่งตามที่มิจฯ แอบอ้างแต่อย่างใด

ผู้เสียหายมีทั้งร้านขายต้นไม้ ผ้าม่าน และกิจการอื่นๆ โดยล่าสุดที่เราเจอกับคนใกล้ตัวคือ ร้านหนังสือที่รู้จักกันเจ้าหนึ่งซึ่งโดนเรื่องเดียวกัน และพี่เค้าเปิดแชตที่คุยกับมิจฯ ให้ดู จึงเห็นว่าวิธีการที่มาหลอก เป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมด และถ้าหากหลงเชื่อก็จะทำให้เสียเงินกันไปหลักแสนทันทีค่ะ

ขอเล่าให้ส่วนของร้านหนังสือที่เจอกรณีนี้นะคะ (โชคดีตรงที่ว่า พี่เค้าไม่โลภ ไม่อยากได้เงินส่วนต่างอะไรใดๆ ที่ทางมิจฯ เสนอมาให้ และมีสติ ใจเย็น ตรวจสอบทุกอย่างก่อน จึงรอดจากกรณีนี้ไม่ต้องเสียเงินแสนค่ะ)

ปกติที่ร้านขายหนังสือมือสอง มีหน้าร้าน มีเพจ มีเบอร์โทรที่ติดต่อได้จริง เปิดกิจการมาหลายสิบปี ในแต่ละวันมีคนทักข้อความและโทรติดต่อมาซื้อขายในช่องทางออนไลน์มากอยู่แล้วค่ะ

ต้นเดือน ธ.ค ที่ผ่านมาทางร้านได้รับสายจากลูกค้า อ้างว่าเป็นอาจารย์ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต้องการหาซื้อหนังสือเพื่อนำไปใส่ห้องสมุดโรงเรียน จำนวน 700 เล่ม โดยเลือกประเภทหนังสือและตกลงราคากันเรียบร้อย

ทางร้านได้แอดไลน์ และพูดคุยคอนเฟิร์มยอดของสินค้าและยอดเงินเรียบร้อย รอทางลูกค้า (ขอเรียกว่ามิจ1 นะคะ) มารับของจากหน้าร้านและชำระเงินในตอนที่รับของ

ทางมิจ1 อ้างว่ากำลังตั้งเบิกเงินเพื่อนำมาชำระค่าหนังสือ และชวนคุยต่อว่าต้องการหาซื้อโต๊ะสเตนเลสสำหรับใช้รับประทานอาหาร จำนวน 50 ตัว พอจะมีขายหรือติดต่อร้านไหนได้บ้าง ทางร้านหนังสือบอกไปว่าไม่รู้จักเลย ไม่สามารถติดต่อให้ได้ค่ะ

มิจ1 ทักกลับมาอีก บอกว่ามีร้านที่อยากซื้อ และส่งรูปตัวอย่างโต๊ะมาให้ พร้อมกับบอกว่า พี่ช่วยติดต่อร้านนี้ได้มั้ย เนื่องจาก ผอ.โรงเรียนไม่ถูกกันกับร้านนี้ ไม่ชอบ ไม่อยากให้ซื้อที่นี่ แต่ถ้าฝากพี่ให้ช่วยประสานงานให้ ส่วนต่างหรือพี่จะบวกกำไรเท่าไหร่ ก็บวกได้เลยนะคะ พร้อมกับบอกราคามาว่า งบอยู่ที่ตัวละ 20,000 บาท 50 ตัว และให้ชื่อ เบอร์โทร ของมิจ2 มา พร้อมกับแจ้งว่าแอดไลน์ไปหาเบอร์โทรนี้ได้เลยนะคะ

ทางร้านหนังสือติดต่อให้ตามช่องทางที่มิจ1 แจ้งมา และมิจ2 ก็รับแอดไลน์อย่างรวดเร็ว มีการเสนอราคา พูดคุยกันเรียบร้อย พร้อมกับส่งใบเสนอราคา มีชื่อร้านที่อยู่ เบอร์โทร เป็นร้านสเตนเลสที่มีตัวตนจริงๆ ค้นหาในเน็ตก็เจอ (ในบางกรณี เจอมาว่ามีแนบใบ ภพ.20 มาให้ด้วยนะคะ ปลอมแบบเนียนมาก) ส่วนบัญชีในการรับเงินค่าโต๊ะนั้น เป็นบัญชีชื่อบุคคลธรรมดา ไม่ใช่บัญชีบริษัทหรือ หจก.

-ตรงนี้ก็เอ๊ะแล้วว่า เงินเกือบล้านทำไมโอนเข้าส่วนตัว ปกติมันควรจะเป็นบัญชีบริษัทหรือบัญชีร้านมั้ย?

ร้านหนังสือ แคปภาพและรายละเอียดทั้งหมดส่งไปให้มิจ1 บอกว่าราคาเท่านี้ๆ ไม่ได้บวกอะไรนะคะ ตามใบเสนอราคาเลย คุณโอนเงินให้ไปตาม บช.นี้ที่แคปภาพมาได้เลย เดี๋ยวเค้าเอาของไปส่งให้วันนี้

การพูดคุยทางร้านหนังสือแคปภาพไปบอกทั้ง 2 ฝั่งตลอดนะคะ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้เก็บเงินเกิน และแจ้งสถานะของสินค้าด้วยค่ะ ข้อความต่อไปนี้คือสิ่งที่มิจทั้งสอง ส่งผ่านร้านหนังสือนะคะ มิจ1รีบบอกว่าต้องใช้ของวันนี้ รับปาก ผอ.เอาไว้ว่า 4 โมงเย็นโต๊ะต้องมาส่งถึงโรงเรียน บอกร้านขอเก็บปลายทางได้มั้ย มาส่งของแล้วจะจ่ายเงินทันที มิจ2 บอก วันนี้ส่งไม่ได้ แต่มีขึ้นของไปส่งลูกค้าอีกเจ้า ถ้าจะเอาเลยต้องจ่ายเต็มจำนวน มัดจำหมื่นนึงอะไรก็ไม่ได้

ทางร้านหนังสือช่วยต่อรองจนเหลือมัดจำ 150,000 บาท แล้วมิจ2 จะออกรถไปส่งของให้ทันที โดยที่ตลอดเวลาก็จะเร่งเป็นระยะๆ ว่ารีบๆ นะ เดี๋ยวไม่ทัน เดี๋ยวขอส่งพรุ่งนี้ ส่วนมิจ1 ก็เร่งทางคนกลางยิกๆ เช่นกันว่าต้องส่งวันนี้เท่านั้นไม่งั้นจะเสียหายหนักมาก

มิจ1 ต่อรองกับทางร้านว่า ขอมัดจำ 50,000 โดยเอาเงินส่วนตัวที่ตัวเองมีโอนให้ก่อน เดี๋ยวพอตั้งเบิกได้เงินแล้วค่อยหักออก และการเงินต้องรีบไปทานข้าวเที่ยงเค้ารีบมาก ทุกอย่างดูรีบร้อนไปหมด

ร้านหนังสือบอกว่า 50,000 ไม่ได้ค่ะ ทางมิจ2 ไม่ยอม และถ้าหากจะให้ทางร้านสำรองจ่ายไปก่อน 100,000 เพื่อรวมเงินให้ได้ 150,000 บาทไปมัดจำค่าโต๊ะเพื่อให้ร้านส่งของวันนี้ ก็ไม่มีเงินสำรองให้เช่นกัน สรุปไปมา ทางมิจ1 ส่งสลิปโอนเงินของกรุงไทยมาให้ ชื่อผู้โอนเป็นโรงเรียนแห่งหนึ่ง (และดูจากผู้เสียหายคนอื่น มีแอบอ้างชื่อหลายโรงเรียนมาก) มาให้กับทางร้านหนังสือ พร้อมกับเร่งให้รีบโอนต่อไปให้มิจ2

เอ๊ะที่ 1 – ทำไมไม่โอนตรงไปให้มิจ2 เลย ทำไมต้องโอนผ่านร้านหนังสือ
เอ๊ะที่ 2 – ใครมันจะกล้าโอนเงินเยอะขนาดนั้นมาให้คนแปลกหน้า ถึงจะมีหน้าร้าน มีตัวตนจริงๆ ก็ตามเถอะ
เอ๊ะที่ 3 – ยอดเงิน 8แสนกว่าบาทนั้น ไม่มีแจ้งเตือนเข้ามาในบัญชีของร้าน พอทักกลับไปแจ้งมิจ1 นางก็ตอบมาว่า ทางโรงเรียนยังไม่เคยโอนเงินให้คุณมาก่อน พอเป็นการโอนครั้งแรกเลยทำให้ระบบต้องใช้เวลาตรวจสอบนานหน่อย
เอ๊ะที่ 4 – มิจ2 เร่งรัวๆ เลย ว่าเมื่อไหร่จะโอนเงินค่าโต๊ะซะที จะออกรถแล้วนะ จะยกของลงนะ จะไม่ส่งของนะ ส่วนมิจ1 ก็เร่งรัวๆ โอนแล้วนะคะ ได้เงินแน่นอนค่ะ ดูสลิปได้เลยค่ะ

ทางร้านหนังสือจึงโทรเช็คจากทางธนาคาร และทางธนาคารก็แจ้งว่า ไม่มีเงินโอนเข้าจริงๆ ในระหว่างนั้น ทั้งมิจ1และ 2 ก็ทักไลน์ โทรไลน์ โทรหาที่เบอร์โทรศัพท์กันรัวๆ พี่รับสายหนูด้วย พี่ตอบด่วน พี่หายไปไหน….สารพัดจะกดดันค่ะ

ทางร้านหนังสือจึงโทรกลับไปที่แบงค์ด้วยมือถืออีกเครื่อง และ เปิด speaker พร้อม ๆ กับโทรไลน์หามิจ1 และให้ทางแบงค์แจ้งอีกครั้งว่าไม่มียอดโอนเข้าจริง ๆ

พอวางสายจากแบงค์ มิจ1 ก็โวยวาย ขู่ จะแจ้งความจะเรียกตำรวจ บอกว่าทางร้านโกง สารพัดจะกดดันมาด่า จนพี่ร้านหนังสือตอบกลับไปว่า เราเสียเวลากับคุณมา 3 วันแล้ว และเงินก็ไม่ได้โอนมาจริงๆ ถ้ามีปัญหามาก เราจะโทรเรียกตำรวจมาตอนนี้เลย แล้วมาดูว่าใครจะโดนจับกันแน่ จากนั้นทั้งมิจ1 และมิจ2 ก็บล็อกไลน์หนีไปทั้งคู่

ไปตรวจสอบเลขที่บัญชีที่รับโอนเงินมาแล้ว ดูเหมือนจะเปลี่ยนชื่อบัญชีไปเรื่อยๆ นะคะ อาจจะตรวจสอบไม่พบในกูเกิ้ลว่ามีประวัติโกง เพราะใช้บัญชีใหม่ตลอดค่ะ

หลังจากนั้นร้านลองค้นหาชื่อร้านสเตนเลส และเห็นเพจของร้าน มีการแจ้งเตือนเรื่องนี้หลายครั้ง มีผู้เสียหายหลายราย จนทางร้านแทบไม่ได้ทำงาน เพราะต้องมารับเรื่องที่คนถูกโกงโดยที่เค้าไม่รู้เรื่องด้วย จึงรู้ว่าโดนเข้าแล้ว และยังโชคดีที่ไม่ได้หลงเชื่อ โอนเงินไปก่อน หรือเห็นแก่ส่วนต่างอะไรจนต้องเสียเงินให้กับมิจฉาชีพกลุ่มนี้

สมัยนี้ต้องระวังกันให้รอบด้านนะคะ ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน ทุกๆ การซื้อขาย ตรวจสอบให้แน่ใจก่อน และอย่าให้ใครมาใช้บัญชีของเราเป็นทางผ่าน เพราะอาจจะโดนล่อให้เป็นบัญชีม้าได้เช่นกันค่ะ ไม่ใช่แค่วงการหนังสือที่ต้องระวัง ในตอนนี้ไม่ว่าขายอะไร วงการไหน ยังคงต้องระมัดระวังกันให้มากค่ะ

ยังไม่รู้ว่าผู้เสียหายทั้งหมดที่แจ้งความเอาไว้ จะสามารถตามตัวหรือตามเงินกลับมาได้รึเปล่านะคะ เพราะมีแค่ ชื่อนามสกุลของ มิจ2 และเลขที่บัญชี (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใช้บัญชีม้ามารับเงินก่อนจากนั้นก็ถอนเงินหนีไปรึเปล่า) อันตรายมีรอบด้าน เงินหายาก อย่าประมาทค่ะ