บิวกิ้น ดีใจ หลานม่า เข้ารอบออสการ์ 15 เรื่องสุดท้าย เผยมาไกลเกินฝันมาก ลุ้นไปต่อรอบ 5 เรื่อง ถ้าทำได้ถือเป็นกำไรคนทำงาน
หลังจากที่ หลานม่า สร้างประวัติศาสตร์หนังไทยเรื่องแรก เข้ารอบออสการ์ 15 เรื่องสุดท้าย ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ล่าสุดวันที่ 18 ธ.ค.67 ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ มีโอกาสเจอ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล นักแสดงนำของเรื่อง เลยสอบถามถึงความรู้สึกและความคาดหวังว่าหนังจะไปได้ไกลจนถึงเข้ารอบออสการ์ 5 เรื่องสุดท้ายได้หรือไม่?!
ล่าสุด หลานม่า เข้ารอบออสการ์ 15 เรื่องสุดท้าย ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม? “ดีใจมากเลยครับ ผมไม่ได้อยู่รอฟังผลเมื่อคืนเพราะว่าเจ็ตแล็ก พอตื่นมาเห็นข่าวดีก็ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกยังไง ดีใจกับหลายๆ อย่าง ดีใจที่มีโอกาสได้มาทำงานในหนังเรื่องนี้แล้วมันก็ไปไกลว่าที่ทีมงานและนักแสดงคิดไว้มาก ว่าหนังจะสามารถเข้ารอบนี้ได้ ตอนที่ทำหนังกันก็ไม่ได้คิดถึงปลายทางขนาดนั้น แค่อยากทำให้สิ่งนี้ออกมาดีที่สุด”
“ผมโชคดีมากที่พี่ๆ ชวนผมมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานในหนังเรื่องนี้ เพราะหลานม่าให้อะไรกับผมเยอะมาก มันไปสร้างตะกอนความรู้สึกใหม่ๆ ในความคิดของเราด้วย แล้วก็มีโอกาสได้ทำงานกับคนเก่งๆ จนหนังพาให้เราไปเจอประตูใหม่ๆ และมีโอกาสต่อยอดในการทำงานอื่นอีกด้วย”
ฝันไปต่อเลยไหมว่า หลานม่า จะไปได้ไกลอีกจนเข้ารอบ 5 เรื่องสุดท้าย? “จริงๆ ผมไม่ได้ฝันนะ อย่างเข้ารอบ 15 เรื่องก็ไม่ได้ฝันเหมือนกัน ผมรู้สึกว่ามันมาไกลมากตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วที่หนังไปสู่เทศกาลต่างๆ ประเทศต่างๆ รวมถึงฟีดแบ็กต่างๆ เพราะตอนที่ทำผมไม่ได้มีความคาดหวังว่ามันไปสู่ปลายทางไหน ไม่ได้คาดหวังแต่ผมรอติดตามงานที่มันเดินทางไปมากกว่า”
แล้วแอบลุ้นไหม? “ลุ้นนะ ตื่นเต้นด้วย แต่ผมไม่แน่ใจเลย หนังมันเป็นศิลปะที่ไม่ได้มีเส้นมาขีดวัดขนาดนั้น เราอาจจะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ดีกว่า หนังเรื่องนั้นดีกว่า เราชอบองค์ประกอบนี้ของสิ่งนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องของรสนิยมมากๆ อย่างหลานม่ามีโอกาสได้ไปบางเทศกาล แต่บางเทศกาลเขาก็ไม่ได้ให้เราเข้าไป ฉะนั้นเลยไม่อยากเอาเรื่องอะไรต่างๆ มาคาดหวังขนาดนั้น แต่ถ้ามีโอกาสได้เข้าไปก็เป็นกำไรมากๆ ครับ”
อาม่า (ยายแต๋ว) บอกว่าเตรียมตัดชุดไว้แล้ว? “เหรอครับ (หัวเราะ) ผมไปยืมชุดเอาแล้วกัน ผมขี้งกอ่ะ ไม่ตัดหรอก มีเพื่อนฝูงคนไหนอยากจะสนับสนุนก็ติดต่อมาได้”
ในฐานะนักแสดงรู้สึกอย่างไรที่วงการบันเทิงไทยไปได้ไกลแบบนี้? “ผมว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามันมีสัญญาณที่ดีสำหรับผลงานของประเทศไทยทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ เริ่มมีงานที่สามารถเดินทางออกไปไกลได้มากขึ้น รวมถึงคนในประเทศก็ให้ความสนใจและให้ความสำคัญกับงานในประเทศมากขึ้น หลังๆ เราเห็นหนังเข้าโรงแล้วมีคนให้การตอบรับเยอะขึ้น ทุกอย่างมันกำลังขับเคลื่อนไปข้างหน้า พอในภาพใหญ่กำลังเติบโตมันก็จะพาทั้งอุตสาหกรรมไปข้างหน้าจริงๆ ครับ”