แท็กซี่ชักดาบค่าน้ำมัน ซิ่งหลบหนีตำรวจ เสียหลักข้ามเลนชน สิบล้อ-รถตร.เละทั้งคัน เหตุเกิดที่ชัยภูมิ ตรวจสอบโชเฟอร์แท็กซี่ สอบหาสาเหตุ
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 21 ธ.ค.67 ร.ต.อ.โอภาส บำรุงถิ่น รองสว.(สอบสวน) สภ.ลาดใหญ่ จ.ชัยภูมิ รับแจ้งจากพนักงานของปั๊มตรงข้ามโรงพักว่า มีแท็กซี่สีเขียว-เหลือง ขับเข้ามาเติมน้ำมัน ก่อนขับรถหลบหนีไป โดยไม่ได้จ่ายค่าน้ำมัน เป็นเงิน 1,750 บาท จึงประสานสายตรวจขับตามไ ปโดยใช้ถนนสายลาดใหญ่-อำเภอเมืองชัยภูมิ
ต่อมาพบแท็กซี่อยู่บริเวณหน้าโรงงาน หลังจากคนขับรถแท็กซี่เห็นทางเจ้าหน้าที่กำลังจะลงไปสอบถาม รถแท็กซี่คันดังกล่าวจึงขับหลบหนีเข้ามาทางในเมืองชัยภูมิ เจ้าหน้าที่จึงขับติดตามมา ก่อนที่แท็กซี่คันดังกล่าวจะขับข้ามเลนไปชนกับรถบรรทุกและหมุนมาชนกับรถของเจ้าหน้าที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ
เบื้องต้นรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง มีนายสัญญา อายุ 36 ปี ชาวชัยภูมิ เป็นคนขับรถ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวและให้ชุดสืบสวนนำตัวไปที่สถานีตำรวจ ที่เกิดเหตุยังพบรถบรรทุก ซึ่งเป็นรถขนเวที ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุและยังพบรถตราโล่ของ สภ.ลาดใหญ่ อีก 1 คัน ที่เสียหายสภาพด้านหน้าพังยับ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาลคนบาดเจ็บ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลชัยภูมิ
จากการสอบถามนายวรวิศ อายุ 38 ปี เล่าว่า ตนขับรถบรรทุกขนเวทีมาจาก อ.เกษตรสมบูรณ์ เพื่อที่จะมาจัดงานในพื้นที่ต.กุดตุ้ม อ.เมืองชัยภูมิ ที่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร พอมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถเจ้าหน้าที่ขับไล่หลังรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาด้วยความเร็ว พอมาถึงจุดเกิดเหตุรถแท็กซี่ขับข้ามเลนพุ่งมาทางรถของตน แต่หักหลบแล้วไม่พ้น ทำให้ชนเข้าอย่างจัง จนมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว
ส่วนนายสัญญา คนขับรถแท็กซี่ ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาที่ห้องสืบสวน เบื้องต้นจากการสอบถามพบว่า นายสัญญาขับรถมาจากกรุงเทพฯ เพื่อที่จะมารับแม่ที่อยู่อำเภอใกล้เคียง แต่แม่ไม่ได้มาด้วย ก่อนแม่ไล่ให้กลับไปที่กรุงเทพฯ นายสัญญาจึงขับรถออกจากบ้านมาแล้วแวะเติมน้ำมันหลัง จากนั้นไม่มีเงิน จึงขับรถหลบหนี แต่ยังหนีไปไม่ไกล พบรถเจ้าหน้าที่ขับตามหลัง จึงขับวิ่งหนีด้วยความเร็ว เพราะกลัวเนื่องจากคิดว่าตัวเองมีความผิดฐานฉ้อโกง แถมเป็นคดีติดตัว จึงขับรถหลบหนีด้วยความเร็ว ก่อนที่จะขับรถข้ามเลนประสานงานกับรถบรรทุกหกล้ออย่างจัง
ด้านร.ต.อ.โอภาส เผยว่า หลังจากควบคุมตัวมาที่สถานีตำรวจแล้ว เบื้องต้นผลตรวจปัสสาวะไม่พบมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนการสอบสวนนั้น เจ้าตัวยังให้การวกไปวนมา จึงให้ชุดสืบสวนคุมตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง