จับสาวบัญชีม้า แก๊งคอลฯอ้างเป็นจนท.การไฟฟ้า ส่งลิงก์ให้โหลดแอปฯ ดูดเงินกว่า2แสนเกลี้ยงบัญชี ผู้ต้องหาสารภาพขายบัญชีม้าหาเงินซื้อนมให้ลูก
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 ธ.ค.2567 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (ป.) สน.เพชรเกษม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุม น.ส.พิชชาพร อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 1112/2567 ลงวันที่ 18 ธ.ค. 2567 โดยจับกุมตัวได้ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
สืบเนื่องจากช่วงกลางปี 67 ขณะที่ น.ส.สุทิดา ผู้เสียหาย ได้มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง ตรวจสอบพบว่าบ้านของ น.ส.สุทิดา มีค่าไฟฟ้าสูงกว่าปกติ ทางการไฟฟ้าจะทำการลดหย่อนค่าไฟฟ้าคืนให้ พร้อมแนะนำน.ส.สุทิดาฯ ว่าจะมีข้อความส่งมาทางโทรศัพท์มือถือ เมื่อน.ส.สุทิดาฯ กดดูโทรศัพท์มือถือของตนพบข้อความลิงค์ m wa.tw-th.cc
เมื่อน.ส.สุทิดาฯ กดเข้าไปในลิงค์ ปรากฎเป็นแอปพลิเคชั่นไลน์การไฟฟ้า และมีการสนทนากับบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ได้แนะนำให้ติดตั้งแอปพลิเคชั่นชื่อ Mea Pro รูปโปร์ไฟล์การไฟฟ้านครหลวง บนโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ดูเปอร์เซ็นต์ค่าไฟฟ้าจะลดลงหน้าจอโทรศัพท์
น.ส.สุทิดาฯทำตามคำแนะนำ จนโทรศัพท์มือถือของตนหน้าจอค้างไม่สามารถทำรายการ เช่น กดดู กดเลื่อน ได้ ประมาณ 30 นาทีจึงเริ่มสงสัยว่าน่าจะถูกหลอกลวงแล้ว จึงตรวจสอบแอปธนาคารที่ติดตั้งไว้บนโทรศัพท์มือถือ กระทั่งพบว่า เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 15.18 น. มีการทำรายการเงินออกจากบัญชี จำนวน 170,466 บาท
ต่อมา วันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 15.31 น. มีการทำรายการบัตรกดเงินสด เงินออกจากบัญชี จำนวน 27,000 บาท และวันที่ 29 มิถุนายน 2567 เวลา 15.35 น. มีการทำรายการบัตรกดเงินสด เงินออกจากบัญชี จำนวน 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ประมาณ 227,466 บาท
จากการสอบสวนนางสาว พิชชาพร รับสารภาพว่าได้ขายบัญชีม้า ให้กับผู้ติดต่อมาทางเฟซบุ๊ก โดยจะได้ค่าจัาง 1,000 บาท ที่ทำไป เพราะตอนนั้นลูกเล็ก ไม่มีเงินซื้อนมลูก เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา“ร่วมกัน ลักทรัพย์โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า
ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน, เข้าถึงโดยมิชอบ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
