สกัดจับ 2 หนุ่มพม่า ขับกระบะ ลอบขน 6 แรงงานเถื่อนชาติเดียวกัน จากสังขละบุรี เข้าเมืองกาญจน์ รับได้ค่าจ้างหัวละ 3,000 บาท
วันที่ 12 ม.ค. 2568 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี รับแจ้งว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ด้วยการใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะ
จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ประดิษฐ์ แร่เพชร สว.ธร.รรท.สวป.สภ.สังขละบุรี พร้อมด้วยตำรวจชชุดปะฉะดะ ตำรวจสายตรวจรถยนต์ ตำรวจจราจร ร่วมกับทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 134 ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณสามแยกหน้าวัดลิเจีย หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
กระทั่งเวลา 06.50 น. พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผข 9500 ราชบุรี ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับมาจากทาง อ.สังขละบุรี มุ่งหน้า อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณเรียกให้คนขับหยุดรถเพื่อขอตรวจค้น
จากการตรวจค้นพบกระเป๋าสัมภาระของกลุ่มแรงงานวางอยู่ที่กระบะท้าย มีนายเต็นวิน ชาวเมียนมา อายุ 44 ปี อยู่บ้านพักที่ จ.ราชบุรี เป็นคนขับ และนายมาย ชาวเมียนมา อายุ 27 ปี นั่งข้างคนขับ โดยมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งแออัดกันมาอยู่ที่เบาะหลัง 6 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 5 คน แรงงานทั้งหมดไม่มีเอกสารมาแสดงตัว
นายเต็นวิน ให้การรับสารภาพว่า ขับรถไปรับแรงงานทั้งหมดที่จุดนัดหมายบริเวณชายป่าริมทาง อ.สังขละบุรี เพื่อนำไปส่งใน อ.เมืองกาญจนบุรี ได้ค่างจ้างขนแรงงานคนละ 3,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายเต็นวิน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม
ส่วนนายมาย ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย
ขณะที่แรงงานทั้ง 6 คน ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าว หลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย พร้อมยึดรถยนต์กระบะ และโทรศัพท์มือถือเอาไว้ตรวจสอบ
