ฟังลูก พ่อติดยายอมไปบำบัดรักษาแล้วเป็นเวลา 4 เดือน เปิดใจย้ำตัวเองไม่ได้ติด แต่เสพเพราะเข้าสังคมเพื่อน จะสู้เพื่อลูก-แม่สักครั้งพร้อมโผกอด ลูกหวังพ่อจะเลิกได้
จากกรณีนางวรรณา อายุ 63 ปี ร้องเพจให้ช่วยตรวจสอบลูกชาย นายแจ๊ค อายุ 41 ปี หลอนยาอาละวาดถือมีดถือไม้อาละวาดในบ้าน ซึ่งได้ไปช่วยเกลี้ยกล่อม ขณะที่ลูกชายได้ก้มกราบแทบเท้าขอร้องให้พ่อเลิกยา และไปบำบัด ขณะที่นายแจ๊คก็ขอโอกาส ขอเวลา สัญญาจะเลิกยาแน่นอน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว ลูกร่ำไห้ ก้มกราบเท้าพ่อ ขอร้องให้เลิกเสพยา ย่าน้ำตาคลอสงสารหลาน เรียนเก่งอายพ่อติดยา
ล่าสุดวันที่ 13 ม.ค.2568 ตร.ชุดสืบสวน สภ.บ้านดุง ได้เดินทางไปที่บ้านนายแจ๊คอีกครั้ง เพื่อพูดคุยกับนายแจ๊คพาไปบำบัดรักษา ตอนแรกนายแจ๊คถามตำรวจว่ามาทำอะไร จะมาจับผมหรือ ตร.ก็ชี้แจงว่า อยากให้ไปบำบัด หรือจะเลือกเอาจะให้จับกุม หรือไปบำบัดรักษา นายแจ๊คก็พยายามโต้เถียงว่า ถ้าจะเอาผมไปบำบัด ก็ต้องเอาคนติดยาในอ.บ้านดุงทุกคน ตร.ก็บอกว่าไปเชิญทุกคน ตอนแรกดูท่านายแจ๊คไม่ยอมเลือกทั้งสองอย่าง แต่สุดท้ายแม่และลูกชาย คือน้องวอลโว่ได้กล่อมขอร้องอีกแรง นายแจ๊คจึงยอมไปบำบัด
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายแจ๊ค บริเวณห้องประชุมคำชะโนด ที่ว่าการอำเภอบ้านดุง โดยเจ้าหน้าที่ฯ กำลังสอบสวนและคัดกรอง เพื่อเตรียมส่งตัวไปบำบัดฯ เป็นเวลา 120 วัน โดยนายแจ๊คเผยกับนักข่าวว่า วันนี้ตำรวจเชิญตัวผมมาบอกว่าจะพาไปบำบัดรักษายาเสพติด เข้าค่าย 120 วัน หรือ 4 เดือน เข้าค่ายบำบัดไม่มีปัญหาผมทำได้ ผมก็ยอมไปเพราะรักลูกชายคนเดียว และรักแม่ด้วย จะทำเพื่อแม่และลูกชายสักครั้ง
แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมไม่ได้เสพยาเยอะนะครับ ส่วนที่อ้างว่าลูกผมอายที่พ่อเสพยา ผมอยากจะบอกว่า ใครจะรู้ว่าผมเสพยา ความจริง ผมวางตัวนิ่งนะ แต่งตัวดี พูดจาดี ในสังคมของลูกนะ มีแค่รอยสักที่แขนเท่านั้น ตอนผมเรียนหนังสือผมชอบศึกษาพระ รู้เรื่องพระดีโดยเฉพาะพระสมเด็จ ชอบเขียนกลอน มีนามปากกาว่า นวพล บดินเดชา และบัลลังค์นาย
ส่วนเรื่องยาผมไม่ได้เล่นเยอะ ที่ลูกชายกราบเท้า อยากให้เลิกยา ผมเลิกได้ แต่หากผมไปหาเพื่อนก็มีบ้าง เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ขอย้ำคำนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า อ้าวแบบนี้ก็เลิกไม่ได้สิ แหมผมเข้าสังคมเพื่อนแล้วผมไม่เสพยา เพื่อนก็มอง อยากจะบอกอีกว่า คนเรามีทั้งดีและไม่ดี มีดีมีชั่ว อยู่ที่ว่าจะยึดฝั่งใด คนที่ไม่ดีคนแย่ๆ ก็มีมุมดีๆ ของเขา บอกตรงๆ ผมรักลูกมาก ที่วันก่อนลูกชายก้มกราบที่ว่าลูกชายอยากให้พ่อเลิกยา ข่าวออกไปเป็นข่าวบิดเบือน ที่แท้จริงคือลูกชายกลัวตำรวจมาจับพ่อ เจ้าตัวพูดไปก็ยิ้มไป
ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายแจ๊คขึ้นรถของรพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนบำบัดและฟื้นฟูตามโครงการของทางจ.อุดรธานี นายวรรณา แม่นายแจ๊ค และน้องวอลโว่ อายุ 15 ปี ลูกชายนายแจ๊คเดินทางมาส่ง โดยทันทีที่เห็นพ่อน้องวอลโว่โผเข้ากอดพ่อ และร้องไห้ ดีใจที่เห็นนายแจ๊คไปบำบัดรักษา
ลูกชายบอกว่า พ่อเลิกยานะครับ ผมรักพ่อที่สุดในโลก จากนั้นน้องวอลโว่จะก้มกราบเท้าพ่ออีกครั้ง แต่นายแจ๊คดึงแขนลูกชายขึ้น บอกว่าไม่ต้องห่วง ยาพ่อเลิกได้อยู่แล้ว อยู่บ้านดูแลย่าให้ดีนะ ดูแลตัวเองด้วย พ่อไม่ได้โดนจับ เดี๋ยวพ่อมา 4 เดือน ให้คิดว่าพ่อไปทำงานนะ ขณะที่แม่นายแจ๊คบอกว่า ไปบำบัดกลับมาเป็นคนดีเหมือนเดิมนะลูก แม่รักลูกมาก อย่าให้แม่เสียลูกชายไปอีกคนเลย หัวอกคนเป็นแม่พูดไปก็น้ำตาคลอเบ้า
นางวรรณา บอกว่า แต่ก่อนนายแจ๊คลูกชายไม่เป็นแบบนี้ เรียนหนังสือเก่งมาก เป็นถึงประธานนักเรียนสมัยเรียนอยู่จ.นครปฐม เตรียมตัวจะสอบเข้านายร้อยแล้ว แต่แม่ก็บอกว่าไม่มีเงินส่งเรียน เขาเลยไปทำงานในกรุงเทพฯ กลับมาอยู่บ้านเมื่อปีใหม่ก็มาเสพยาจนหลอน เรากลัวจะฆ่าแม่และลูกชายตัวเองสักวัน ดีใจที่วันนี้ลูกชายไปบำบัดรักษา หวัง 4 เดือนเขากลับมาเป็นความหวังให้แม่และหลานชายได้เห็นเป็นคนใหม่ แม่ไม่อยากเสียลูกชายไปอีกคน เพราะปีที่แล้วน้องชายนายแจ๊คติดยาจนหลอนผูกคอตายมาแล้ว แม่เหลือลูกชายคนเดียว อยากจะวิงวอนให้รัฐบาลจัดการปัญหายาเสพติดให้เด็ดขาดซะที
ขณะที่ น้องวอลโว่ เปิดใจบอกว่า เมื่อวันก่อนที่ผมก้มกราบเท้าพ่อ เพราะอยากให้พ่อเลิกยาเสพติด ผมรักพ่อมาก เรามีกันอยู่แค่นี้มีย่า มีพ่อและมีผม ผมก็รู้ว่าพ่อรักผม ผมก็รักพ่อ อยากให้พ่อเลิกยา หัวอกคนเป็นลูกกล่าวอย่างไร้เดียงสา